วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557



ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย







           ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อสิบปีก่อนที่ อ.งาว ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อฝึกช้างให้ออกไปทำงานด้านชักลากไม้ในป่า แต่ช่วงยี่สิบปีถัดมา รัฐได้ยกเลิกสัมปทานการทำป่าไม้ทั่วประเทศ ทำให้ช้างต่าง ๆ ไม่มีที่อยู่ที่ทำงาน และถูกส่งกลับมาอยู่ที่โรงเรียนฝึกช้าง แต่พื้นที่ที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับจำนวนช้างทั้งหมดได้ จึงได้ย้ายสถานที่มาอยู่ที่ อ.ห้างฉัตรในปัจจุบัน
           ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ต.เวียงตาล อยู่ในความดูแลของฝ่ายอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) แต่เดิม ออป. เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย ออป.จึงได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้นเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 
          ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย มีพื้นที่กว้างขวางจากบริเวณด้านหน้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย มีรถบริการนำเข้าสู่ส่วนการแสดงต่าง ๆ ภายใน ปัจจุบันแบ่งพื้นที่เป็น
-โรงพยาบาลช้าง คอยรักษาดูแลอาการช้างที่ป่วย และลูกช้างที่คลอดใหม่
-โรงงานทำกระดาษจากมูลช้าง จำหน่าย และเพิ่มมูลค่าด้วยการทำเป็นกระดาษเขียนจดมาย,ซองจดหมาย,สมุดโน้ต และอื่น ๆ อีก โรงงานผลิตกระดาษจากมูลช้างเปิดให้เข้าชมวิธีทำกระดาษจากมูลช้างด้วย
-โรงงานทำปุ๋ยชีวภาพจากมูลช้าง และโรงงานแก๊สชีวภาพนำไปผลิตไฟฟ้าใช้ภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย(ครบวงจรทีเดียว)
-โรงช้างต้น (ส่วนนี้ไม่ได้เปิดให้เข้าชม)
-และส่วนที่ขาดไม่ได้คือ ลานแสดงช้าง
        ลานแสดงช้าง ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยแห่งนี้ การแสดงช้างจะแตกต่างจากการแสดงช้างที่อื่น(เช่น การนั่ง ยืนสองขา หรือผาดโผนต่าง ๆ) แต่จะเน้นที่กิจกรรมของช้างที่เคยปฏิบัติในงานทำไม้เป็นหลัก โดยเปรียบเสมือนเป็นโรงเรียนสอนช้างทำไม้ในป่า สาธิตการลากจูงไม้แบบเชือกเดียว การดุนไม้ การยกไม้(ใช้งากับงวงช่วยกัน) หรือการลากจูงไม้ในที่คับแคบตามภูเขา และสาธิตการช่วยเหลือกันลากจูงไม้โดยช้างสองเชือกพร้อมกัน การจัดเรียงไม้เพื่อรอการขนย้ายเป็นต้น แต่จะเพิ่มความน่ารักของช้างด้วยการสาธิตการวาดรูปของช้าง(สามารถขอซื้อได้ เงินเข้าศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเพื่อช่วยเหลือช้างต่อไป) หลังการแสดงจบนักท่องเที่ยวสามารถซื้ออาหารเลี้ยงช้างได้ (ชุดละ 20 บาท เลือกได้ว่าจะเอาอ้อย หรือกล้วย) เปิดการแสดงในวันธรรมดา เวลา 10.00 และ 11.00 น. ส่วนวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์เพิ่มรอบ 13.30 น. ค่าเข้าชมการแสดงอยู่ที่ 50 บาทสำหรับผู้ใหญ่ บวกค่ารถบริการ 20 บาท เป็น 70 บาทเท่านั้น
        สำหรับนักท่องเที่ยวหากเข้ามาถึงบริเวณด้านในก่อนเวลาแสดง จะมีการแสดงอาบน้ำช้าง(ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม) ช้างอาบน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เริ่มเวลา 9.45 น. สำหรับวันธรรมดา และเพิ่มรอบ 13.15 น. ในวันหยุด ท่านจะได้เห็นช้างตัวโตทยอยกันลงในแอ่งน้ำ ดำผุด จุ่มงวงพ่นน้ำใส่ควาญช้าง และรดตัวเอง เมื่อคลายร้อนก็จะขึ้นบกเพื่อไปเตรียมเข้าแสดงต่อไป (ข้อแนะนำ ถ้าคุณนั่งดูช้างอาบน้ำ โปรดระวังบางตัวจะดูดน้ำใส่งวง พ่นใส่คุณ ๆ ที่นั่งแถวหน้า) ข้าง ๆ ที่ช้างอาบน้ำ มีบริการนั่งช้างชมศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ค่าบัตรสามารถสอบถามได้ที่เคาเตอร์จำหน่ายตั๋ว

       และนักท่องเที่ยวท่านใดต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นควาญช้าง ได้ฝึกช้างพร้อมกับได้มาร่วมแสดงการแสดงช้าง หรือพักผ่อนค้างคืนที่นี่ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
การเดินทาง
จากอำเภอเมืองลำปาง ไปตามทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านตัวอ.ห้างฉัตรมุ่งไปทางจังหวัดลำพูน เมื่อถึงประมาณ กม.ที่ 28-29 จะเห็นศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยอยู่ฝั่งตรงข้าม กลับรถชิดซ้ายเข้าศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ตลอดทางมีป้ายบอกเป็นระยะว่าอีกกี่ กม.ถึงศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย

          นั่งช้างรอบบริเวณซึ่งเป็นสวนป่า ธรรมชาติยังมีสิ่งดีๆ ที่คอยให้กำลังใจกับเราทุกเมื่อ บางครั้งเราอาจจะสับสนวุ่นวาย เครียดหนักกับการทำงานทั้งวัน ทั้งสัปดาห์ลองหลบความวุ้นวายเหล่านั้น ไปท่องเที่ยวกับธรรมชาติ โดยเฉาะกับการขี่ช้างชมธรรมชาติ ท่านจะรู้สึกถึงความแปลกใหม่ในชีวิต เป็นรางวัลจากความเหน็ดเหนื่อยที่จะทำให้ท่านลืมงานที่ออฟฟิคไปอีกหลายวันเชียวแหละ การนั่งช้างให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 - 15.30 น .

       
         การบริการ  ช้างแท็กซี่ หรือบริการนั่งช้างชมธรรมชาติรอบๆ ศูนย์ฯ มีทุกวัน เวลา 08.00-15.30 น
        โฮมสเตย์ (Homestay) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตที่ผูกพันระหว่างช้างกับคนเลี้ยงช้างอย่างใกล้ชิด บริการอาหารเครื่องดื่มและร้านขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมสำหรับ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้หลายเส้นทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 054-247871-6
         ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards) ประเภทรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พ.ศ.2541 ปัจจุบันศูนย์ฯมีโครงการ โรงเรียนฝึกควาญช้าง เพื่อฝึกควาญหรือผู้ที่ประสงค์จะเป็นควาญให้สามารถดูแลช้างได้อย่างถูกต้อง มีชาวต่างชาติให้ความสนใจมาสมัครเป็นนักเรียนหลายคน นอกจากเรื่องท่องเที่ยวแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พลังงานที่ใช้ภายในศูนย์ฯ มาจากพลังงานทดแทนในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ มีก๊าซชีวภาพจากมูลช้างใช้ในการหุงต้ม และกระแสไฟฟ้าผลิตจากเซลล์แสงอาทิตย์
          สวนป่าทุ่งเกวียน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวลำปาง มีป่าสนเมืองหนาวและพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ใบที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งไม้จำพวกตะบองเพชร และปาล์ม ตลอดจนพืชสมุนไพรต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถแค้มปิ้งที่นี่ได้ ช่วงที่สวยที่สุดเหมาะแก่การพักแรมคือเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบัวตองกำลังบาน เนื่องจากจังหวัดลำปางมีพื้นที่เป็นแอ่งกะทะจึงมีอากาศที่ร้อนกว่าแม่ฮ่องสอน ดอกบัวตองที่ลำปางจึงบานเร็วกว่าที่ดอยแม่อูคอประมาณ 15 วัน
ประมาณเดือนตุลาคมมีการจัดกิจกรรมทุ่งเกวียนเมาเท่นไบค์ และเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีการจัดงาน “ดอกไม้บานวันพบช้าง”




วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

งานใน Google sketchup 8

งานใน Google sketchup 8

1. ไหญี่ปุ่นอินเทรนด์




  2. บ้านนกแสนสุขสันต์




3.นาฬิกากบน่ารัก







4. กล่องสบู่บ้องแบ๊ว











5.บ้านสีชมพูในฤดูใบไม้ผลิ








วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

วิธีกรทำสบู่ว่านหางจระเข้


                          


สบู่ว่านน้ำว่านหางจระเข้



วัสดุอุปกรณ์
1.หม้อ

2.ทัพพี

3.เตาแก๊ส

4.เครื่องชั่ง



5.ช้อน

6.แม่พิมพ์


ึึึ7.เครื่องปั่น


สารเคมี
1.น้ำว่านหางจระเข้
2.เนื้อว่านหางจระเข้
3.สบู่

4.น้ำเปล่า



วิธีการทดลอง


1.ขูดส่ี่บู่เตรียมไว้ให้เป็นผงละเอียด






2.ปลอกว่านหางจระเข้


3.ชั่งว่านหางจระเข้ตามที่กำหนด


4.ชั่งสบู่ตามที่กำหนดสูตรไว้



5.เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

    

 ขั้นปฏิบัติ  ชุดที่ 1 สูตรที่ 1
        1.เอาน้ำว่านหางจระเข้ใส่หม้อ     

        2.เอาเนื้อว่านหางจระเข้ ปริมาตร 10 กรัม น้ำว่านหางจระเข้ 50 กรัม และสบู่ 50 กรัม           ใส่ลงไปทีละนิดจนหมด       

          3.คนให้เหนียว    




              4.ตักใส่พิมพ์รอจนแข็ง





      

ขั้นปฏิบัติ  ชุดที่ 2 สูตรที่ 2
        1.เอาน้ำว่านหางจระเข้ใส่หม้อ       

         2.เอาเนื้อว่านหางจระเข้ ปริมาตร 10 กรัม น้ำว่านหางจระเข้ 40 กรัม 

และสบู่ 50 กรัม           ใส่ลงไปทีละนิดจนหมด       

        3.คนให้เหนียว     



      4.ตักใส่พิมพ์รอจนแข็ง


หลังจากนั้นรอจนเย็น









ประโยชน์
1.       ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ด้วยการรับประทานเนื้อวุ้น หรือจะทำเป็นน้ำปั่นว่านหางจระเข้มาดื่มก็ได้ ก็จะช่วยบรรเทาอาการและป้องกันโรคเบาหวานได้
2.       ว่านหางจระเข้ สรรพคุณช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ด้วยการตัดใบสดของว่านหางจระเข้ แล้วทาปูนแดงด้านหนึ่ง แล้วเอาด้านที่ทาปูนปิดตรงขมับ จะช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ (ใบ)
3.       วุ้นว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยป้องกันและลดการเกิดแผลในกระเพาะขณะท้องว่าง ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารต่างๆ
4.       สรรพคุณ ว่านหางจระเข้ช่วยแก้กระเพาะลำไส้อักเสบ ด้วยการใช้ใบนำมาปอกเปลือกเอาแต่วุ้น นำมารับประทานวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ (เนื้อวุ้น)
5.       ใช้เป็นถ่าย ยาระบาย ที่เปลือกของว่านหางจระเข้จะมีน้ำยางสีเหลือง ในน้ำยางจะสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) ที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย หากนำน้ำยางไปเคี่ยวให้น้ำระเหยออกแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ก็ตะได้สารสีน้ำตาลเกือบดำ หรือเรียกว่า ยาดำซึ่งยาดำนี้เองใช้เป็นส่วนผสมในตำรับยาแผนโบราณที่ต้องการให้มีฤทธิ์เป็นยาระบายอยู่หลายตำรับ (ยางในใบ)

        จากการทดลองโดยนำสบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้มาถูที่มือข้างละสูตรแล้วล้างน้ำออกการทดลอง      สูตรที่1ใช้สบู่ว่านหางจระเข้ด้วยอัตราส่วนน้ำว่านหางจระเข้+สบู่+เนื้อว่านหางจระเข้ (50g:50g:10g) สูตรที่2 ใช้สบู่ว่านหางจระเข้ ด้วยอัตราส่วนน้ำว่านหางจระเข้+สบู่+เนื้อว่านหางจระเข้(40g:50g:10g)
    จึงสรุปได้ว่า สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้ที่สามารถใช้ได้ดีที่สุดคือสบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้ด้วยอัตราส่วนน้ำว่านหางจระเข้+สบู่+เนื้อว่านหางจระเข้(50g:50g:10g)คือผู้ใช้ 2 กลุ่มชอบสูตร 1 กับศูตร 2  ปรากฎว่า มีคนชอบสูตร 1  มี  22 คน  มีคมชอบสูตร 2  มี 8 คน 

ข้อเสนอแนะ
     การผลิตสบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้ครั้งนี้เป็นการผลิตขึ้นมา
เพื่อใช้ในครัวเรือนที่สามารถทำได้ไม่ยากและขั้นตอนวิธีการก็ไม่ยากเช่นกันที่สำคัญได้ผลดีไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพไม่สิ้นเปลืองเงินมาก

ข้อควรระวัง
      เวลาใช้สบู่ไม่ควรให้สบู่เข้าตาเพราะอาจเกิดการระคายเคืองและอาจเกิดอันตรายตามมา



ที่มา  www.frynn.com

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้



สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้



      

         ว่านหางจระเข้ เป็นต้นพืชที่มีเนื้ออิ่มอวบ จัดอยู่ในตระกูลลิเลี่ยม (Lilium) แหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา พันธุ์ของว่านหางจระเข้มีมากมายกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีทั้งพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากจนไปถึงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กกว่า 10 เซนติเมตร ลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้ก็คือ มีใบแหลมคล้ายกับเข็ม เนื้อหนา และเนื้อในมีน้ำเมือกเหนียว ว่านหางจระเข้ผลิดอกในช่วงฤดูหนาว ดอกจะมีสีต่างๆกัน เช่น เหลือง ขาว และแดง เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของมัน
       
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aloe vera  (L.)  Burm.f.
ชื่อพ้อง : Aloe barbadensis  Mill
ชื่อสามัญ :  Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados
วงศ์ :  Asphodelaceae                                                   
ชื่ออื่น  หางตะเข้ (ภาคกลาง) ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น 
ใบหนาและยาว โคนใบใหญ่ ส่วนปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างกัน แผ่นใบหนาสีเขียว 
มีจุดยาวสีเขียวอ่อน อวบน้ำ ข้างในเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด
 ก้านช่อดอกยาว ดอกสีแดงอมเหลือง โคมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2
 ชั้น รูปแตร ผล เป็นผบแห้งรูปกระสวย

ส่วนที่ใช้ :  ยางในใบ น้ำวุ้น เนื้อวุ้น และเหง้า



 สรรพคุณ (โดยย่อ)

  1. ช่วยทำให้อาการปวดแสบปวดร้อนจากการฉายรังสีดีขึ้น โดยทำให้หายปวดแสบปวดร้อน ผิวหนังจะไม่พอง แผลจะค่อยๆแห้งและตกสะเก็ดหลุดออกโดยไม่มีแผลเป็น นอกจากนี้ยังพบว่ามีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ฝี หนอง มีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบและเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่บาดแผล ทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย วิธีใช้ เลือกใช้ใบล่างสุดของต้นก่อน นำมาล้างน้ำให้สะอาด  ปอกเปลือกสีเขียวออก  ล้างน้ำยางสีเหลืองออกให้หมดเพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองผิวหนังและทำให้มี อาการแพ้ได้  ขูดเอาวุ้นใสปิดพอกบริเวณแผล  หรือฝานเป็นแผ่นบางๆ ปิดที่แผล  พันด้วยผ้าพันแผลที่สะอาด  จะทำให้รู้สึกเย็น หายปวดแสบปวดร้อน เปลี่ยนวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จนกว่าแผลจะหาย
  2. ใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ::: จากการวิจัยในสัตว์ทดลองและคนไข้  พบว่าเมือกและวุ้นจากใบว่านหางจระเข้เมื่อรับประทาน สามารถป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้
  3. ฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ ::: จากการวิจัยในคนไข้โรคเหงือกอักเสบ  พบว่าสารสกัดจากใบว่านหางจระเข้  สามารถลดอาการอักเสบได้
  4. ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลายชนิด

       


ที่มา

มารู้จักกับ โปรแกรม sketch up





 มารู้จักกับ โปรแกรม sketch up
    

ความหมาย
           
      Google SketchUp เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแบบจำลอง 3D (Three - Dimensional) ที่มีความง่ายต่อการใช้งาน และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายในและภายนอก การออกแบบกลไกลการทำงานของเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ ภูมิประเทศ ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงงานออกแบบฉาก อาคาร และสิ่งก่อสร้างในเกม หรือจะเป็นกมรจัดฉากทำ Story Boards ในงานภาพยนต์หรือละครโทรทัศน์ก็สามารถทำได้
  
เครื่องมือในโปรแกรม

ตัวอย่าง



           

                  


ที่มา 




วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ความหมายของการออกแบบผลิตภัณฑ์

     การออกแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึง เป็นการออกแบบเพื่อการผลิต ผลิตภัณฑ์ 
ชนิดต่าง ๆงานออกแบบสาขานี้ มีขอบเขตกว้างขวางมากที่สุด และแบ่งออกได้มากมาย 
หลาย ๆ ลักษณะ นักออกแบบรับผิดชอบเกี่ยวกับประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามของ 
ผลิตภัณฑ์  
ที่มาhttp://www.l3nr.org
     การออกแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึงการรู้จักวางแผนเป็นขั้นตอน และรู้จักเลือกใช้วัสดุ และวิธีการทำ ให้สอดคล้องกับลักษณะรูปแบบและคุณสมบัติของวัสดุแต่ละชนิด ตามความคิดสร้างสรรค์ 
ที่มาhttp://esan.nfe.go.th
     การออกแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึงสิ่งที่นำเสนอแก่ตลาดเพื่อให้เกิดความสนใจ 
การซื้อ การใช้ หรือการบริโภค ซึ่งสามารถตอบสนองความจำเป็นและ
ความต้องการได้



สรุป การแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึง เป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เราคิดให้มีสิ่งที่แตกต่างและไม่เหมือนคนอื่นทำให้มีสินค้าใหม่ๆ ออกมาแต่ควรคำนึงถึงวิธีการทำและคุณสมบัติของวัสดุ เพื่อให้เกิดความสนใจและความปลอดภัย

วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ดอกสุพรรณิกา



ชื่อดอกไม้
    ดอกสุพรรณิการ์
วงศ์
    BIXACEAE (COCHLOSPERMACEAE)
ชื่ออื่น
    ฝ้ายคำ (ภาคเหนือ), สุพรรณิการ์ (ภาคกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ 
    Cochlospermum religiosum(L.) AlstonCochlospermum regium (Mart. & Schrank) Pilg.(ฝ้ายคำซ้อน)Cochlospermum gossypium De Candole (Syn. Maxmiliana gossypium Kuntze หรือ Bombax gossypium L.)

ชื่อสามัญ 
    Yellow Silk Cotton, Butter-Cup (Single), Butter-Cup (Double),Torchwood
ลักษณะทั่วไป
    เป็นต้นไม้ผลัดใบสูง 7-15 เมตร กิ่งก้านคดงอ ใบรูปหัวใจ แผ่นใบแยกเป็น 5 แฉก ขอบใบเป็นคลื่น ดอกเป็นช่อออกกระจายที่ปลายกิ่ง บานทีละดอก ดอกเหลืองมีกลิ่น กลีบบาง เกสรสีเหลือง รังไข่มีขน ผลกลมเมื่อแก่แตก 3-5 พู ภายในมีเมล็ดรูปไตสีน้ำตาล หุ้มด้วยปุยขาวคล้ายปุยฝ้าย ออกดอกเกือบตลอดปี ดอกดกมาก ราวกุมภาพันธ์-เมษายน มีถิ่นกำเนิดในอินเดียทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาหิมาลัย และเป็นไม้พื้นเมือง ของพม่าด้วย ในศรีลังกามักปลูกบริเวณพระอุโบสถ เป็นดอกไม้บูชาพระ ในเมืองไทยทางเหนือ เรียกว่า ฝ้ายคำ นำเข้ามาประเทศไทยกว่า 50 ปีมาแล้ว
การขยายพันธุ์ 
    โดยการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง เป็นไม้กลางแจ้ง ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด เป็น ไม้ต้นผลัดใบขนาดเล็กสูง 3-12 เมตร มีก้านใบสีแดงอมน้ำตาล ใบกลม โคนใบรูปหัวใจ แผ่นใบแยกเป็น 5 แฉกลึก ขอบใบจักดอกออกเป็นกระจุกแน่นที่ปลายกิ่งและบานพร้อมๆกัน ไม่มีกลิ่น ขณะออกดอกจะสลัดใบหมด กลีบดอกสีเหลืองสด เกสรเหลือง แต่ส่วนโคนเกสรครึ่งล่างมีสีแดง รังไข่เกลี้ยง ผลสุกสีแดงอมเขียว เมื่อแก่จะแตก 5 พู ภายในมีเมล็ดรูปไตหุ้มด้วยปุยขาวคล้ายปุยฝ้าย ถิ่นเดิมจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้
การขยายพันธุ์ 
    ด้วยเมล็ดและปักชำกิ่ง  
คุณประโยชน์ 
    สุพรรณิการ์(ฝ้ายคำ) นอกจากเป็นไม้ประดับแล้ว ยางจากต้นให้ผลิตผลเป็น Karaya gum หรือทางการค้าเรียกว่า Crystalgum เป็นก้อนผลึกสีเหลืองอ่อนหรือน้ำตาลอมชมพู ใช้เป็นยาระบาย ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาเซทผม เป็นยาทาบำรุงผิว ใช้ในอุตสาหกรรมทอผ้าและการพิมพ์ อุตสาหกรรมอาหารกระป๋อง ผสมไอศกรีมทำให้ข้น เนื้อไม้ต้มกับแป้งเป็นอาหาร ใบอ่อนใช้สระผม ดอกแห้งและใบแห้งใช้เป็นยาบำรุงกำลัง


ที่มา google.com/site/swnphvssastr54m2032/tn-su-phr-rni-kar
       

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติส่วนตัวของฉัน

ชื่อ ด.ญ.ฐิติชญา  โยปินตา
ชื่อเล่น ฟ้า
วันเกิด อาทิตย์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2544
ส่วนสูง  161 น้ำหนัก 48
กรุ๊ปเลือด B 
จบจาก โรงเรียนอนุบาลห้างฉัตร
ปัจจุบัน โรงเรียนลำปางกัลยาณี
สิ่งที่ชอบ
-ชอบสีน้ำเงินและส้ม
-ชอบกินเป็นที่สุด
-อ่านหนังสือน้อยมากแต่เรียนรู้เรื่อง
-ชอบดูการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ

สิ่งที่ไม่ชอบ
-ไม่ชอบทำการบ้านแต่ต้องมีส่ง
-ไม่ชอบกินผัก



ฉายา เจ๊แว่นขาโขด(เพื่อนที่ (อบฉ.ตั้งให้) เพราะเวลาโกรธจะพังทุกสิ่งที่ขวางหน้า